วันศุกร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ข้อคิดก่อนเปิด fanpage จากประสบการณ์ตรง

ถ้าฉันเคยพลาดมาแล้ว ฉันก็ไม่อยากให้เพื่อนพลาดซ้ำ
เขียนเล่าไว้ให้เป็นประสบการณ์
ส่วนใครจะนำไปใช้ก็แล้วแต่น่ะ
เพราะเราเองก็ไม่ได้เก่ง แค่ค่อย ๆ เรียนรู้มาเรื่อย ๆ เหมือนกัน

1.ก่อนเปิด fanpage
อย่าลืมตอบคำถามสำคัญให้ได้ก่อนว่า "เป้าหมายลูกค้าเราเป็นใคร"
คำถามนี้ดูเหมือนง่าย แต่ไม่ง่าย
จะทำธุรกิจต้องระบุกลุ่มลุกค้าเป้าหมายให้ชัด
ถ้าไม่ชัด....พังเอาได้ง่าย ๆ .... ถึงไปได้ก็ได้ไม่นาน
เราเคยมาแล้ว
จำได้ใช่ไหมที่เราเคยเปิดเพจเสื้อผ้าเป็นงานเสริม
ตอนนั้นทำแบบทุ่มเงินไปเยอะ
ทั้งตากล้อง นางแบบ สต๊อกของ

 แต่เราลืมกำหนดว่า เป้าหมายลูกค้าเราเป็นใครกันแน่
เราอยากได้ลูกค้าหมดทุกกลุ่ม
ซึ่งตอนหลังเพิ่งรู้ว่า
"ถ้าคุณอยากได้ลูกค้าทุกคน
จะไม่มีใครเป็นลูกค้าคุณเลยแม้แต่คนเดียว"
คำนี้เพิ่งมาเข้าใจได้ไม่นาน
เมื่อทิศทางการทำงานเราชัดเจน
เราก็เริ่มเข้าใจแล้วว่าที่ผ่านมาผิดพลาดไปอย่างไร

2.ชื่อแฟนเพจ
**สำคัญมาก**
ให้ใช้ keyword ที่ลูกค้าจะค้นหาในการตั้งชื่อ
อย่า!!! ใช้ชื่อแบรนด์
เพราะโอกาสที่คุณจะได้ลูกค้ามีน้อยกว่า
เพราะไม่มีใครค้นหาด้วยแบรนด์ของคุณ ถ้าคุณยังไม่เป็นที่รู้จัก
ถ้าไม่เชื่อ....ลองดูก็ได้
เปิดขึ้นมา 2 เพจ
เพจนึงใช้ชื่อแบรนด์ อีกเพจใช้คีย์เวิร์ด
ดูว่า 2 เพจนี้ผลตอบรับต่างกันอย่างไร


3.อย่าให้เพื่อนไปกด like ถ้าเค้าไม่ใช่กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
ก่อนอื่นต้องขอโทษก่อนที่มีหลายคน invite มาแต่ไม่ได้ไปกด like
ประเด็น มันอยู่ตรงที่ว่า
เมื่อเราโพสอะไรลงไป คนที่มองเห็นจะมีเพียง 1% ของ fanpage
นอกจากว่าจะลงโฆษณา
เดี๋ยวนี้เฟสบุคไม่ได้ทำง่าย ๆ เหมือนเมื่อก่อนนะคะ
เรายังแอบเสียดายที่ไม่เก็บเพจเก่าไว้
แต่ตอนนี้ไม่เป็นไร เริ่มนับ 1 ใหม่หลายเพจ ด้วยแนวทางที่ชัดเจนมากขึ้น
แล้วถ้าคนที่ไปกด like ไม่ใช่ลูกค้าเป้าหมาย มันก็ไม่มีประโยชน์อะไร
จำนวน like ไม่ได้สำคัญเท่าจำนวนลูกค้านะ
และสำคัญสุดๆ

***อย่าซื้อ like เด็ดขาด***

คนเริ่มทำเพจใหม่ ๆ แรก ๆ ก็คงท้อใช่ปะ อยากให้มีคนมา like เยอะๆ
เมื่อก่อนตอนไม่รู้เราก็เป็นและพลาดมาแล้วววว
เสียเงินเปล่าเลย
บอกได้คร่าว ๆ เท่านี้สำหรับคนที่จะเริ่มต้นนะคะ
วางแผนดี ๆ เดี๋ยวทำไปแล้วจะเสียกำลังใจ
เราสรุปมาสั้น ๆ ให้ได้ตามนี้น่ะ

เริ่มต้นธุรกิจอย่างไรดี?? ปัญหาของหลาย ๆ คน

ตอนนี้กิจการของฉันกำลังเติบโตขึ้นแต่ก่อนที่จะมีความรู้สึกแบบนี้
ฉันเคยมีความรู้สึกเคว้งคว้าง...ว่างเปล่า

จะทำอะไรดีน๊าาาา....
จะเริ่มต้นธุรกิจยังไงดี....
และเชื่อว่าหลาย ๆ คงเคยมีความรู้สึกไม่ต่างกัน

จุดเริ่มต้นของฉัน
เริ่มมาจาก....
การตกงานโดยไม่ได้ตั้งใจ
และไม่ได้เตรียมตัวมาก่อน

...ช่วงเวลาที่ลำบากที่สุด
ฉันต้องอยู่ด้วยเงินเก็บของตัวเอง .... ให้ได้นานที่สุด
และช่วงเวลานี้เอง...ที่เป็นจุดพลิกผันชีวิตทุกอย่าง

ทั้ง...งาน.....และความรัก...
เรื่องความรัก ปล่อยมันไป....ไม่ใช่ประเด็น

แต่ประเด็นที่คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับใครหลาย ๆ คน คือ
เราจะเริ่มธุรกิจยังไงดี
หลายคนเริ่มจากผลิตสินค้ามาก่อน
โดยที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า สินค้าตัวนั้น จะมีคนซื้อหรือไม่
ฉัน...เคย....คิดอยากมีธุรกิจที่ไม่ต่างจากคนทั่วไป
เช่น....ร้านกาแฟ....ร้านเสื้อผ้า....ฯลฯ

และแล้วการเข้าสัมมนาก็ทำให้ความคิดฉันเปลี่ยนไป
ช่วงนั้น ความเครียดที่เกิดจากการมีแต่รายจ่าย...โดยไม่มีรายรับ
และไม่รู้ว่าเงินก้อนที่มีอยู่นั้นจะหมดลงไปเมื่อไหร่
มันเป็นช่วงที่ฉันต้องใช้เงินอย่างประหยัดและเห็นคุณค่าของทุกสิ่ง

การเข้าฟังสัมมนา ฟรี เป็นทางออกที่ดีมาก
ฉันเชื่อว่าสิ่งสำคัญที่สุดก็คือความรู้ที่จะติดตัวเรา
ฉะนั้น ... ไม่แปลกที่จะเห็นฉันเข้าฟังสัมมนาฟรีบ่อย ๆ 555
มีพักหลัง ๆ นี่แหละ ที่เข้าสัมมนาแบบซื้อบัตร
แต่ก่อน...ไม่เค้ยยย ไม่เคยเลย

และนั่นเอง.....มันก็ทำให้ฉันได้เห็นว่า
ของฟรี และ ดี ก็มีอยู่บนโลกใบนี้นะ
การฟังสัมมนาฟรีมันเป็นการเปิดโลกและมุมมองใหม่ให้กับฉันในมุมกว้าง
ในเวลานั้น....เป็นช่วงที่ยังค้นหาตัวเองไม่เจอ
ไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วตัวเองชอบอะไรกันแน่
และเมื่อยิ่งได้เจอผู้คนมากขึ้น
ไม่น่าเชื่อว่า...หลายคนก็มีปัญหาแบบเดียวกัน
ถึงเพิ่งรู้ว่า...เราไม่ใช่คนแปลกสินะ 555

จนกระทั่งวันหนึ่งที่ฉันได้พบกับคำว่า
"เมื่อศิษย์พร้อม....อาจารย์จะมา"
ฉันได้พบ...กับอาจารย์ที่ดีที่สุด

ทำไมถึงกล้าพูดว่า...อาจารย์ที่ดีที่สุด
เพราะหลังจากที่ฉันได้ฟังอาจารย์บรรยายในครั้งแรก
รู้เลยว่า นี่แหละ...คือสิ่งที่ฉันตามหา
การตลาดแบบนี้แหละ
ที่จะทำให้เราอยู่รอด
แม้ไม่มีเงินลงทุนเลย
ฉันไม่จำเป็นต้องมีเงินมากก็เริ่มธุรกิจของตัวเองได้

ยิ่งไปกว่านั้น
หลังจากที่ได้วิชามาแล้ว.......
ฉันก็ได้รู้อีกว่า...ไม่ว่าสินค้าอะไรก็ขายได้หากเรารู้วิธีการ
จากนั้นฉันตัดสินใจลงทะเบียนเรียนและลงมือทำ
ฉันก็ได้พบกับปัญหาต่อมาที่เป็นปัญหาน่าหมั่นไส้อีกแล้ว
นั่นคือ "มีออเดอร์เยอะมาก มีเงินมารออยู่ตรงหน้า
มีคนพร้อมจะเอาเงินมาให้ แต่.....ไม่มีสินค้า"

โห....นี่แหละๆๆๆๆ

แบบนี้สิ....จะขาดทุนได้ยังไง

....นี่มันพลิกทุกทฤษฎีที่ฉันเคยรู้มาเลยนะเนี่ย

ค่าลงทะเบียนนั้น แน่นอนว่า หลักหมื่น
แต่ผลตอบแทนที่ได้กลับมา.......เกินกว่าหมื่นไปเยอะ
ฉันเคยแนะนำคอร์สนี้ให้กับเพื่อนหลายคน

หลายคนก็ไปลงทะเบียนเรียบร้อย
และอีกหลายคน ที่ยังลังเลด้วยค่าเรียนที่เค้าคิดว่าแพง

แต่จะถามว่า อะไรที่เรียกว่าแพง??

ถ้าค่าเรียนหลักหมื่นนั้นแพง
แล้วสิ่งที่เราต้องไปลองผิดลองถูกเองนั้น แพงกว่าหรือไม่

สิ่งมีค่ามากที่อาจารย์ได้ถ่ายทอด คือ knowhow
ที่มีมูลค่ามากมายมหาศาล

เราไม่จำเป็นต้องลองผิดลองถูก
แต่มีคนนำสิ่งที่เค้าได้ลงมือทำแล้วสำเร็จมาบอกเรา
เราแค่ทำตาม เดินตามคนที่เค้าสำเร็จ
มันทำให้เราประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายได้มากมายเลยนะ

สำหรับฉันเองที่บอกว่าคอร์สนี้เป็นคอร์สที่ดีมี่สุด
เพราะว่าสิ่งที่ยากที่สุดของธุรกิจ คือ ตอนเริ่มต้น

จริง ๆ นะ ตอนเริ่มต้น เป็นอะไรที่เราไม่รู้ว่าจะไปทางไหนดี
อะไรก็อยากทำไปหมด

หากมีการเรียนนอกตำราที่ไหนสักที่
ที่จะช่วยให้เราสามารถเริ่มต้นธุรกิจของตัวเองได้จริงๆ
ฉันว่าคอร์สนี้คือคำตอบ

ของขวัญ

"ของขวัญ"

หลายคนคงนึกถึง "สิ่งของ"
ที่เราตั้งใจจะมอบให้คนที่รักในเทศกาลต่าง ๆ
ไม่ว่าเป็น ปีใหม่ วันเกิด วาเลน์ไทน์

แต่รู้ไหมว่า
ที่จริงแล้ว "คุณ" อาจเป็นของขวัญที่ดีที่สุด
สำหรับใครบางคน
การให้ของขวัญที่ดีที่สุด คือ.....
อย่าหายไปจากใครบางคนที่ครั้งหนึ่ง
เราต่างก็เคยเห็นความสำคัญของกันและกัน

วันนึงที่คุณหายไป ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม
ถึงแม้จะหาของขวัญสักกี่ชิ้น หรือกี่เทศกาล
ก็คงไม่สามารถแทนที่ความรักในใจ
ที่เค้ามีให้กับคุณ

วันนี้ลองย้อนกลับไปดูว่า
คุณลืมให้ของขวัญกับคนที่เค้าเห็นความสำคัญของคุณหรือเปล่า
มีบางชิ้นที่หล่นหายไประหว่างทางบ้างหรือไม่
เพื่อนเก่า คนคุ้นเคยเก่า มิตรภาพเก่า
ยังอยู่ดีหรือไม่

"คุณคือของขวัญที่ดีที่สุด" ของใครบางคนเสมอ
และคุณเองก็คงมีคนสำคัญที่เป็น "ของขวัญ"
ที่มีค่าที่สุดสำหรับคุณเช่นกัน

นานแค่ไหนแล้วที่เราไม่ได้เจอกัน
ไม่ได้ไถ่ถามความเป็นไปของกันและกัน
เราปล่อยให้เวลาหมุนไป
พร้อมกับนำมิตรภาพดีๆห่างออกไปด้วยเหมือนกัน

อย่าลืม "ของขวัญ" ที่เคยตั้งอยู่ที่เดิมบ้างนะ
แค่คำทักทายสั้น ๆ ก็อาจทำให้เรา
หวนคิดถึงมิตรภาพเก่าๆ ที่เลือนหายไปกลับมาได้นะ


วันพฤหัสบดีที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

เริ่มต้นทำ online อย่างไร

วันก่อนได้รับคำถามหนึ่งที่ดีมาก ๆ
นุ่นคิดว่าเป็นปัญหาหลักของหลาย ๆ คน
คือ ...... เราไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไรก่อนดี
สำหรับมือใหม่ที่อยากจะมาทำ online

คนนู้น คนนี้ พูดศัพท์เทคนิคอะไรก็ไม่รู้ งง ไปหมด
เครื่องมือที่มีอยู่เยอะแยะมากมาย
ก็ทำให้ start up สับสน ได้มาก ๆ เหมือนกัน

นุ่นก็เคยเป็นค่ะ
เดี๋ยวเล่าให้ฟังนะคะ เผื่อเป็นไอเดีย

คำถามสำคัญในหัวข้อนี้คือ นุ่นเริ่มต้นจากไหนก่อน???
ตอนเริ่มทำแรก ๆ นุ่นเริ่มมาจากการขายเสื้อผ้า บน facebook ก่อน
ตอนนั้น ง่าย ๆ เลย เราชอบซื้อ
ก็ศึกษาจากร้านที่เราซื้อนี่แหละ ว่าเค้ามีวิธีขายยังไง
พอเก็บรายละเอียดได้ ก็มาลองทำของตัวเองบ้าง
แต่แล้ว.... ด้วยตลาดที่ red ocean มาก ๆ กำไรก็น้อย
เจอแต่สงครามราคา และขาดการวางแผนที่ดี
ตอนนั้นเราอยากได้ทุกคนมาเป็นลูกค้า
โดยเราไม่ได้ดูว่า จริง ๆ แล้วลูกค้าของเราเป็นใครกันแน่
ใครอยากได้แบบไหน เราก็พยายามหามาให้
สุดท้ายกลายเป็นว่า เมื่อเราขาดความชัดเจนก็เลยทำให้ไปต่อไม่ได้

เคยโพสย้ำกับเพื่อน ๆ ในเฟสบ่อย ๆ
เพราะเห็นหลายคนที่ทำก็ยังคงเป็นแบบนี้อยู่
คือเริ่มต้นทำโดยที่ไม่รู้ว่า ลูกค้าจริง ๆ ของเราเป็นใคร
แรก ๆ ก็อาจจะขายได้ แต่ต่อไปเราจะไม่เหลือลูกค้าที่เป็นลูกค้าเราจริง ๆ เลยนะ

ทีนี้ก็ค่อย ๆ เรียนรู้...... พอเราเริ่มรู้ว่าเราผิดพลาดตรงไหน
ก็พยายามค่อย ๆ อุดรูรั่ว ค่อย ๆ เริ่มศึกษา
โดยเริ่มแรก เข้าสัมมนาก็จับเอาเฉพาะข้อมูลที่จำเป็นในการใช้งานจริง ๆ
สิ่งที่จำเป็นสำหรับคนที่ความรู้ IT น้อยมาก
ยิ่งโปรแกรมทั้งหลายไม่ต้องถามถึง
ไม่ได้จบด้านนี้มา จะให้ไปคุยกะคอมพิวเตอร์ไม่มีทางเข้าใจแน่

ทีนี้ ตอนเริ่มต้น
ตอนนั้นบอกเลยว่าไม่เคยรู้จริง ๆ ว่าเราควรมี website
เพราะคิดว่า เราเลือกช่องทาง facebook ในการขายก็ได้นี่นา
ทำไมต้องมี web ด้วย

แต่.....จริง ๆ แล้ว
website ก็เหมือนบ้านของเรา
เราควรมีบ้าน หรือมีที่อยู่ของตัวเอง

ส่วนจะใช้วิธีการตลาดแบบไหนที่จะให้เชิญชวนให้เพื่อน
หรือลูกค้า เข้ามาบ้าน
นั่นคือวิธีการต่อไป

ทีนี้ เครื่องมือที่มีเยอะแยะมากมาย
สร้างความสับสนเหมือนกันนะ
ว่าเราจะต้องเลือกใช้อันไหนก่อนดี
สำหรับ start up ที่ไม่ได้มีเงินลงทุนสูง ๆ
(คือ ถ้ามีเงินก็ไปจ้างได้เลย ไม่ต้องเสียเวลามานั่งเรียนรู้เอง)
แต่หากอยากค่อย ๆ ศึกษา ในระดับที่เราทำเองได้
ก็มีเครื่องมือที่จำเป็นอยู่ 2-3 ตัวที่เราควรเรียนรู้มันก่อนค่ะ

1. adwords.google.com อันนี้บอกเลยว่าจำเป็นมาก
คนเก่ง ๆ อาจจะบอกว่า รู้อยู่แล้ว
แต่นุ่นรู้ว่าคนที่เริ่มต้น บางคนไม่รู้ก็ไม่รู้จริง ๆ นะ
เพราะตอนเริ่มทำนุ่นก็ไม่รู้
หาอยู่นานกว่าจะเจอเครื่องมือนี้
เป็นเครื่องมือสำคัญของทุกสิ่ง
ลองเล่น keyword planner ดูนะคะ

2. website สำหรับคนที่ไม่ต้องการใช้โปรแกรมอะไรให้ยุ่งยาก
เดี๋ยวนี้ web สำเร็จรูป ที่ใช้งานง่ายมีเยอะมาก
ลองเล่น ๆ ดูค่ะ ใช้เวลาศึกษาไม่นาน เริ่มแรกเน้นของฟรีไปก่อนนะ
lnwshop.com
bentoweb.com
tarad.com
weloveshopping.com
shopup.com
ข้อดีข้อเสียของแต่ละเวปเคยเขียนไว้ครั้งนึง
เดี๋ยวหามาให้อีกทีนะคะ แนะนำให้ลองเล่น lnwshop ไปก่อนค่ะ

3.google analytic อันนี้ไว้วิเคราะห์หลาย ๆ อย่างได้เป็นอย่างดี

ยังไงก็ลองเล่น 3 อันนี้ก่อนนะคะ
ตอนเริ่มต้นก็ใช้เวลาพอสมควรเหมือนกัน
แต่พอเริ่มจับทางได้ จะไปต่อก็ไม่ยากแล้วค่ะ
ทุกคนมีทางไปของตัวเอง ขอแค่เริ่มต้นลงมือทำให้ได้
ยากแค่ตรงนี้แหละค่ะ